Seo กับ Branded
อัพเดทล่าสุด: 24 ธ.ค. 2025
15 ผู้เข้าชม

Seo กับ Branded
Google ประกาศฟีเจอร์ใหม่ใน Search Console
ชื่อว่า Branded Queries Filter ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกดูข้อมูลระหว่าง คำค้นแบบ Branded (เกี่ยวข้องกับชื่อแบรนด์ของคุณ)
และ Non-Branded (คำทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับแบรนด์) ได้อย่างอัตโนมัติด้วยระบบ AI-assisted detection
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
โดยอยู่ที่เมนู Performance Add filter Query Branded / Non-Branded
Branded query คืออะไร?
คือ คำค้นที่ มีแบรนด์ของคุณอยู่ในนั้น เช่น
- ชื่อแบรนด์ตรงๆ เช่น Google
- คำสะกดผิด เช่น Gogle
- ผลิตภัณฑ์สำคัญของแบรนด์ เช่น Gmail
ทำไมฟีเจอร์นี้สำคัญ?
- ช่วยแยกคำยอดนิยมที่ติดอันดับให้ชัดเจนขึ้น โดยกรองเอา Brand ออก
เพราะคำค้นหาส่วนใหญ่ของเว็บใหญ่ๆ มักเป็นคำแบบ Branded ทำให้ภาพรวมผิดเพี้ยน หรือโดนชื่อแบรนด์ตัวเองกลบไว้ด้านบนของการรายงานข้อมูล
- ทำให้เห็น Performance SEO แบบแท้จริง
Branded มี CTR สูงมากอยู่แล้ว ทำให้ภาพรวมคลิกดีเกินจริง และซ่อนปัญหา SEO ไว้ หลายๆ เว็บ traffic หลักแสน แต่ส่วนใหญ่ได้ traffic จากความดังของชื่อแบรนด์ ไม่ได้มาจากคุณภาพของการทำ SEO
- ใช้วัดความแข็งแรงของแบรนด์ (Brand Recognition)
ดูได้ว่า Brand search มีสัดส่วนเท่าไหร่ เป็นตัวชี้วัดพลังของแบรนด์ในตลาด
ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร?
- ใช้ AI ช่วยระบุคำค้น branded โดยไม่ต้องใช้ Regex (การกรองเอง)
- แต่ก็ยังมีโอกาส เดาคลาดเคลื่อน บ้าง
- ไม่มีผลต่อ Ranking
- เป็นเพียงฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น
ข้อดี-ข้อเสียสำหรับคนทำงาน SEO
จะเป็นตัววัดผลว่าคุณเป็นตัวจริงหรือไม่
ปัญหาที่มีมาตลอดหลายปี ทีม SEO ส่งรายงานยอดคลิกดี แต่ 70 - 90% มาจาก Brand search
เช่น: Shopee, Lazada, Ikea
Traffic ที่ส่งเข้ามายังเว็บ ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของฝ่าย SEO แต่มากจากความแข็งแกร่งของแบรนด์เป็นหลัก
ต่อไปทุกอย่างจะถูกแยกออกทันทีว่า
ฝ่าย SEO ทำผลงานได้แค่ไหนใน Non-branded traffic (คือของจริง)
Traffic ที่มาจาก ชื่อแบรนด์ ซึ่งเป็นเครดิตของฝ่าย Branding / PR / Offline marketing
โลก SEO จะโปร่งใสมากขึ้น
และทีม SEO หลายที่ งานเข้า เพราะก่อนหน้านี้เอา Branded มาปนแล้วบอกว่า SEO ทำยอดได้เยอะ
ดังนั้นคนทำ SEO ต้องปรับวิธีรายงานผลลัพธ์
- รายงาน SEO = รายงานเฉพาะ Non-Branded เป็นหลัก
- ส่วน Branded เป็น KPI ของ การตลาดรวมของบริษัท
ทั้ง offline และ online ไม่ได้เกิดจากความสามารถของฝ่าย SEO เพียงอย่างเดียว
Google ประกาศฟีเจอร์ใหม่ใน Search Console
ชื่อว่า Branded Queries Filter ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกดูข้อมูลระหว่าง คำค้นแบบ Branded (เกี่ยวข้องกับชื่อแบรนด์ของคุณ)
และ Non-Branded (คำทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับแบรนด์) ได้อย่างอัตโนมัติด้วยระบบ AI-assisted detection
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
โดยอยู่ที่เมนู Performance Add filter Query Branded / Non-Branded
Branded query คืออะไร?
คือ คำค้นที่ มีแบรนด์ของคุณอยู่ในนั้น เช่น
- ชื่อแบรนด์ตรงๆ เช่น Google
- คำสะกดผิด เช่น Gogle
- ผลิตภัณฑ์สำคัญของแบรนด์ เช่น Gmail
ทำไมฟีเจอร์นี้สำคัญ?
- ช่วยแยกคำยอดนิยมที่ติดอันดับให้ชัดเจนขึ้น โดยกรองเอา Brand ออก
เพราะคำค้นหาส่วนใหญ่ของเว็บใหญ่ๆ มักเป็นคำแบบ Branded ทำให้ภาพรวมผิดเพี้ยน หรือโดนชื่อแบรนด์ตัวเองกลบไว้ด้านบนของการรายงานข้อมูล
- ทำให้เห็น Performance SEO แบบแท้จริง
Branded มี CTR สูงมากอยู่แล้ว ทำให้ภาพรวมคลิกดีเกินจริง และซ่อนปัญหา SEO ไว้ หลายๆ เว็บ traffic หลักแสน แต่ส่วนใหญ่ได้ traffic จากความดังของชื่อแบรนด์ ไม่ได้มาจากคุณภาพของการทำ SEO
- ใช้วัดความแข็งแรงของแบรนด์ (Brand Recognition)
ดูได้ว่า Brand search มีสัดส่วนเท่าไหร่ เป็นตัวชี้วัดพลังของแบรนด์ในตลาด
ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร?
- ใช้ AI ช่วยระบุคำค้น branded โดยไม่ต้องใช้ Regex (การกรองเอง)
- แต่ก็ยังมีโอกาส เดาคลาดเคลื่อน บ้าง
- ไม่มีผลต่อ Ranking
- เป็นเพียงฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น
ข้อดี-ข้อเสียสำหรับคนทำงาน SEO
จะเป็นตัววัดผลว่าคุณเป็นตัวจริงหรือไม่
ปัญหาที่มีมาตลอดหลายปี ทีม SEO ส่งรายงานยอดคลิกดี แต่ 70 - 90% มาจาก Brand search
เช่น: Shopee, Lazada, Ikea
Traffic ที่ส่งเข้ามายังเว็บ ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของฝ่าย SEO แต่มากจากความแข็งแกร่งของแบรนด์เป็นหลัก
ต่อไปทุกอย่างจะถูกแยกออกทันทีว่า
ฝ่าย SEO ทำผลงานได้แค่ไหนใน Non-branded traffic (คือของจริง)
Traffic ที่มาจาก ชื่อแบรนด์ ซึ่งเป็นเครดิตของฝ่าย Branding / PR / Offline marketing
โลก SEO จะโปร่งใสมากขึ้น
และทีม SEO หลายที่ งานเข้า เพราะก่อนหน้านี้เอา Branded มาปนแล้วบอกว่า SEO ทำยอดได้เยอะ
ดังนั้นคนทำ SEO ต้องปรับวิธีรายงานผลลัพธ์
- รายงาน SEO = รายงานเฉพาะ Non-Branded เป็นหลัก
- ส่วน Branded เป็น KPI ของ การตลาดรวมของบริษัท
ทั้ง offline และ online ไม่ได้เกิดจากความสามารถของฝ่าย SEO เพียงอย่างเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความแตกต่างของ ทำ Digital Marketing กับ ทำ Online Marketing สรุปการเปลี่ยนแปลง
Internet Marketing / Online Marketing / Digital Marketing
13 ต.ค. 2025
